แนะนำ

แสงและเงากับภาพแนวสตรีท

Jeryl Tan มาเผยเทคนิคการเล่นกล้องเพื่อจัดให้องค์ประกอบภาพถ่ายตามท้องถนนออกมาสมบูรณ์แบบ 

by โดย Jeryl Tan

Article Categories

ฟอลโลเวอร์กว่า 70,000 คนของ Jeryl Tan ต่างเห็นถึงพรสวรรค์จากผลงานภาพถ่ายผู้คนใช้ชีวิตประจำวันในเมืองเกิดอันเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องอย่างสิงคโปร์และจากทั่วทุกมุมโลกของเขา การถ่ายภาพแนวสตรีทที่ผสานเข้ากับองค์ประกอบต่างๆ รอบตัวได้อย่างสร้างสรรค์โดยใช้เส้น ทรง สี และที่สำคัญที่สุด แสง เพื่อสาดส่องแสงให้ถนนที่เป็นตัวจุดประกายแรงบันดาลใจของตนเอง Jeryl ร่วมมือกับ Sony ในการถ่ายภาพภายใต้หัวข้อ '10 Hours, 10 Photos' (‘10 ชั่วโมง 10 ภาพ’)ด้วยกล้องและเลนส์ของ Sony ที่มีอยู่ ภารกิจของ Jeryl ในการถ่ายทอดเสน่ห์และความเป็นไปของท้องถนนในสิงคโปร์เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/25 sec | F2.8 | ISO 1600

เสาอาคารทำหน้าที่เป็นเฟรม ทำให้จุดโฟกัสมุ่งไปที่คนปั่นจักรยานผ่านใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจ เวลา 6:00 น. 

อะไรทำให้หันมาหลงใหลการถ่ายภาพ

เริ่มถ่ายภาพเพราะชอบเก็บภาพโมเมนต์ต่างๆ และชอบความที่มันหยุดเวลาได้ โปรเจกต์ '10 Hours, 10 Photos' (‘10 ชั่วโมง 10 ภาพ’) ตอบโจทย์ความชอบนี้โดยตรง ไม่ว่าอารมณ์ที่สื่อออกมาจะเป็นสุขหรือทุกข์ ภาพแต่ละภาพคือช่วงเวลาขณะหนึ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมภาพถ่ายถึงเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการถ่ายทอดความทรงจำ ชอบที่เราสามารถเก็บภาพถ่ายไว้ดูได้ตลอดไป 

อีกอย่างที่ชอบเกี่ยวกับภาพถ่ายคือถ้ายิ่งมองดูนานขึ้นก็จะยิ่งเห็นรายละเอียดในภาพมากขึ้น รูปภาพหนึ่งมีค่านับพันคำจริงๆ แถมยังเป็นตัวเริ่มบทสนทนาและตัวช่วยสร้างสายสัมพันธ์หรือกระชับมิตรระหว่างผู้คนอีกด้วย การถ่ายภาพทำให้ได้สังเกตสิ่งรอบตัวมากขึ้น สังเกตเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนอื่นอาจมองข้ามไป นอกจากนี้ ยังช่วยให้มีโอกาสสำรวจสถานที่ใหม่ๆ พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา และสื่อสารสิ่งที่เราคิดออกไปให้คนอื่นรับรู้ การสื่อความคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตที่ไม่มีวันสิ้นสุด เช่น ทำให้คิดเรื่องการจัดองค์ประกอบภาพหรือเรื่องอื่นๆ ที่ต่างออกไป 

การที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เวลาถ่ายภาพแนวสตรีทก็เป็นเรื่องใหญ่ในโปรเจกต์นี้ เริ่มเดินหาแสงและโมเมนต์สำหรับเก็บภาพตอน 6 โมงเช้า ก็บังเอิญไปเจอสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนตลอดหลายปีที่อยู่ที่สิงคโปร์ 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 200mm | 1/640 sec | F2.8 | ISO 400

การได้เห็นเงาเครื่องบินข้างพิพิธภัณฑ์ ArtScience เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แอบสงสัยว่านี่อาจเป็นเที่ยวบินแรกของวันเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็เป็นได้ 

อะไรทำให้ชอบถ่ายภาพถนนและที่สาธารณะ 

เวลาเดินไปตามถนนที่ยังไม่เคยไปก็จะเจออะไรแปลกใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีเวลาถึง 10 ชั่วโมงเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสิ่งต่างๆ มากมาย และยังเห็นว่าแสงตกกระทบส่วนต่างๆ ของถนนอย่างไรในช่วงเวลาที่ต่างกันในวันเดียวกัน ที่น่าทึ่งคือการหาแสงธรรมชาติที่ใช้ได้ขณะอยู่ข้างนอกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้อุปกรณ์จัดแสงจำลองอารมณ์และสภาพแสงให้ออกมาเหมือนแสงธรรมชาติ 

ภาพนี้ใช้ Alpha 7 IV กับ FE 24-70 mm F2.8 GM (SEL2470GM) และ FE 70-200 mm F2.8 GM OSS (SEL70200GM)  ให้แสงออกมาดี บางครั้งยังชอบใช้เลนส์ 'ตรีเอกานุภาพ' ที่ตากล้องชอบเรียกกัน คือ FE 16-35mm F2.8 GM (SEL1635GM), FE 24-70 mm F2.8 GM (SEL2470GM) และ FE 70-200 mm F2.8 GM OSS (SEL70200GM) เนื่องจากรูรับแสงคงที่ตลอดทางยาวโฟกัส เลนส์ทั้งหมดนี้เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 29mm | 1/320 sec | F10 | ISO 100

ให้เงาเล่าเรื่องราว ภาพนี้ถ่ายขณะเดินเล่นที่ Changi Beach ในช่วงเช้า มีคู่สามีภรรยาสูงวัยกำลังใช้ไม้ถ่ายเซลฟี่ถ่ายรูปกันอยู่ บอกได้เลยว่าทั้งคู่รู้ดีว่าแสงแดดอ่อนยามเช้าถ่ายเซลฟี่ได้สวยละมุนที่สุด 

อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการเล่นกับแสงและเงาตอนหันมาถ่ายภาพแนวสตรีท 

ที่นึกได้คือการได้เจอช็อตที่น่าถ่ายเก็บไว้ในช่วงเวลาที่ 'ผิด' ของวัน อาจเป็นที่ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวย แต่เวลาอาจจะค่ำไปและไฟถนนก็สลัวเกินไป ทำให้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการดัดแปลงพลิกแพลง แต่ก็ใช่ที่พอเราเจอจุดที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปแล้ว เราก็กลับมาใหม่ได้ตอนที่สภาพแสงเอื้ออำนวยมากขึ้น ตอนทำโปรเจกต์นี้ก็ต้องทำแบบนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ที่เราเรียนรู้ที่จะคิดเกี่ยวกับวิธีเก็บภาพโมเมนต์ให้ออกมาสวยงาม ขณะที่ 'ทำงาน' ร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้น 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/200 sec | F5.6 | ISO 100

อยครั้งเมื่อเดินไปตามทางเดินนี้ จะไม่มีใครสังเกตเห็นว่าแสงส่องผ่านตัวอาคารอย่างไร เมื่อเราเห็นว่าแสงส่องผ่านตรงกลางอาคารได้อย่างสมบูรณ์แบบและสร้างแสงสีทองอร่าม จึงเล็งกล้องไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้เลนส์สร้างแสงแฟลร์ 

สำหรับโปรเจกต์นี้กับ Sony ใช้เวลา 10 ชั่วโมงบนถนนในสิงคโปร์ ได้รับมอบหมายให้ถ่าย 10 ภาพภายในช่วงเวลานั้น ความบังเอิญและความคาดเดาไม่ได้คือความท้าทายเป็นปกติในการถ่ายภาพแนวสตรีท ช่วยบอกเราได้ไหมว่าประสบการณ์นี้เป็นอย่างไร เวลา 10 ชั่วโมงนี้พอที่จะได้ภาพที่ต้องการหรือไม่ 

ตั้งใจไว้ว่าจะสำรวจสถานที่ใหม่ที่ไม่ใช่บริเวณที่คุ้นเคย ความบังเอิญและความคาดเดาไม่ได้ของโปรเจกต์นี้ โดยเฉพาะในแง่ของแสงและการท้าทายตัวเองในการถ่ายมุมที่ไม่เคยถ่ายมาก่อน ทำให้เราได้ไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ละแวกบ้านใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจ และ Keong Saik ใน Chinatown มีลิสท์รายชื่อสถานที่ในใจไว้แล้ว เลยสนุกกับการได้เดินไปตามท้องถนนช่วงเช้ามืดจนเช้าตรู่ และเมื่อใกล้เที่ยงก็รู้เลยว่าแสงแดดตรงหัวตอนเที่ยงนี่จ้าไปเมื่อเทียบกับแสงที่ชอบถ่ายตามปกติ 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 200mm | 1/500 sec | F4.5 | ISO 100

ความสวยงามของการเก็บภาพโมเมนต์แบบนี้คือการที่คนสองคนอยู่ในสถานที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน แต่มีเรื่องราวชีวิตที่ต่างกัน — ทั้งสองคนมีเป้าหมายสองอย่างที่แตกต่างกันมากในการเดินไปตามทิศทางที่ตัวเองมุ่งหมาย 

เราก็มีเวลามากพอที่จะถ่ายให้ได้รูปที่ต้องการ อันที่จริงก็ลงเอยด้วยการถ่ายภาพเยอะมากจนยากที่จะเลือกมาแค่ 10 รูปสำหรับโปรเจกต์นี้ ได้ทดลองหลายๆ มุมและพยายามรักษาสไตล์การถ่ายภาพของตัวเองไว้ มันก็ท้าทายอยู่มาก แต่ก็มีความสุขที่ได้พูดว่าภาพทั้งหมดที่ถ่ายคือมุมและองค์ประกอบที่ไม่เคยถ่ายมาก่อนตลอดเส้นทางอาชีพถ่ายภาพ 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 24mm | 1/640 sec | F6.3 | ISO 200
Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 60mm | 1/500 sec | F6.3 | ISO 200

การถ่ายภาพด้วยมุมและองค์ประกอบที่แตกต่างกัน 

คิดว่าภาพในโปรเจคต์นี้สื่อถึงเรื่องราวอะไร 

คิดว่าภาพถ่ายแต่ละภาพในโปรเจกต์นี้มีเรื่องราวของตัวมันเอง โดยดูง่ายๆ จากการที่แสงหรือแหล่งกำเนิดแสงทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งในภาพเด่นออกมา แสงสามารถสร้างโฟกัส กำหนดมุมมอง หรือแม้แต่เพิ่มอีกมิติได้ด้วยเงา ซึ่งถ้าไม่มีเงาอาจดูแบน สำหรับรูปทั้งหมดในโปรเจกต์นี้ จะเห็นได้ว่าแสงที่ใช้เปลี่ยนจากแสงที่มนุษย์สร้างขึ้นไปเป็นแสงธรรมชาติได้อย่างไร 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 39mm | 1/800 sec | F7.1 | ISO 400

ทอดเงายาวสร้างมุมมองใหม่ เผยให้เห็นภูมิทัศน์ของสถานที่โดยไม่เผยให้เห็นองค์ประกอบที่เป็นต้นแบบของเงาไว้ในเฟรม ซึ่งคือต้นไม้และสัญญาณไฟจราจร 

สิบชั่วโมงเป็นเวลาเยอะพอสมควรและสภาพแสงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งวัน เล่าให้ฟังหน่อยว่าใช้อุปกรณ์อะไรไปบ้าง เป็นไปตามที่วางแผนไว้หรือไม่ บอกขั้นตอนในการทำงานในวันนั้นให้ฟังหน่อย 

ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย เพราะสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเร็วมากเมื่อออกไปถ่ายตามถนน แค่ชั่วพริบตา ช่วงเวลานั้นก็หายไปแล้ว จะบอกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของเวลา 10 ชั่วโมงนั้น ถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ที่ติดอยู่กับ Alpha 7 IV เพราะถ้ามามัวเปลี่ยนเลนส์อยู่ก็จะไม่ทันการณ์ ทั้งโปรเจกต์นี้ลงเอยด้วย Sony FE 24-70mm F2.8 GM และ FE 70-200mm F2.8 GM ซะส่วนมาก ถึงแม้จะมี FE 50mm F1.2 GM อยู่ในกระเป๋าพร้อมใช้ก็ตาม ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องเลยด้วย เพราะเดินเตร่อยู่ตามท้องถนน ถ้าใช้ Long exposure อาจกินเวลานานเกินไป สุดท้ายที่ทำได้เพื่อให้รูปออกมาดีคือเปิด ISO ของ Alpha 7 IV ระหว่างช่วง 1600 ถึง 6400 

จากที่เล่ามา ชอบถ่ายที่ไหนที่สุดในสิงคโปร์ 

ชอบ Chinatown, ใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจ, Telok Ayer และ Keong Saik แต่สำหรับโปรเจกต์นี้ ได้ไปสำรวจ Bedok, Chinatown, Keong Saik, Paya Lebar กับ Changi Beach ด้วยเพื่อถ่ายความเป็นไปของท้องถนน เป็นที่ที่ไปเดินเล่นเป็นประจำทุกอาทิตย์อยู่แล้ว 

คิดในใจว่า ถ้าสถานที่ที่ลิสท์ไว้มีแสงตกกระทบตามที่มโนไว้ ก็ควรได้รูปที่มีแสงและเงาแบบที่เล็งไว้อยู่ ต้องรอจังหวะที่ใช่ถึงจะกดชัตเตอร์ได้ ประมาณว่าคนขี่จักรยานจะขี่ไปในทิศทางที่เราหวังไว้ 

ทำอย่างไรเมื่อคิดว่าจะได้ช็อตที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่สภาพแสงไม่เป็นใจและคิดว่าจะต้องเกิด "Noise" แน่นอน 

สภาพแสงที่จะทำให้เกิด "Noise" กับกล้อง Sony หมายความว่าสถานที่นั้นมืดเกินไปและไม่เอื้อต่อการถ่ายภาพ ที่จริงแล้วจะตั้งค่า ISO ไม่เกิน 6400 เนื่องจากค่าที่สูงกว่านี้ทำให้ "Noise" ชัดขึ้นและคงสีเดิมไว้ไม่ได้ เลนส์ไพรม์ของ Sony ที่มีรูรับแสงต่ำหรือ f-stops ต่ำกว่าใช้ได้ดีในการให้แสงเข้ามาตกกระทบเซ็นเซอร์กล้องมากขึ้นและลด "Noise" โดยไม่ต้องเพิ่มค่า ISO ให้มากเกินไป อีกวิธีหนึ่งคือรอให้คนเดินข้างใต้หรือผ่านแหล่งกำเนิดแสง 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/500 sec | F5 | ISO 100

ายจากบนลงล่างหรือจากด้านข้างดีหนอ ภาพนี้สร้างมุมมองจากบนลงล่าง แต่ใช้เงาเพื่อสื่อถึงตัวคนบนจักรยาน 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/800 sec | F7.1 | ISO 400

รักแท้ไม่แพ้ระยะทาง แม้ว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่กล้องถ่ายได้ แต่เป็นสีชุดของผู้หญิงที่สะดุดตามากกว่า เลยดึงสายตาของคนดูไปที่ตัวผู้หญิงเป็นอันดับแรก 

ผลงานภาพถ่ายแนวสตรีทของคุณมักใช้ไฟถนน ไฟรถยนต์ และเงา เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้องค์ประกอบพวกนี้เมื่อไหร่ และช่วยเก็บอารมณ์ที่เราพยายามจะสื่อได้อย่างไร 

การถ่ายภาพแนวสตรีทนั้นทุกอย่างหมุนไปเรื่อยๆ รอบๆ ตัวสถานที่นั้นเอง และโปรเจกต์นี้ก็ไม่ต่างกัน เรายังคงต้องรู้วิธีที่จะดึงจุดโฟกัสออกมา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการถ่ายภาพให้ออกมาสวย องค์ประกอบต่างๆ เช่น ไฟถนน แสงแดด การย้อนแสงและเงา กับตำแหน่งเงา ช่วยในการขยายขอบเขตความรู้สึกและอารมณ์ที่สามารถสื่อสารได้กว้างขึ้น ซึ่งเชื่อว่ารูปในโปรเจกต์ '10 Hours, 10 Photos' (’10 ชั่วโมง 10 ภาพ’) ตอบโจทย์ตรงนี้มาก เมื่อใดก็ตามที่กดชัตเตอร์ จะนึกภาพคร่าวๆ ว่าภาพถ่ายจะออกมาเป็นอย่างไรหลังแต่งภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสีในองค์ประกอบภาพโดยรวม 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/800 sec | F7.1 | ISO 400

แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านขณะที่คุณป้าโผล่ออกมาจากเงามืดสู่แสงสว่าง ใช้แสงเพื่อสร้างโฟกัสเสมอ ภาพนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากในการใช้เทคนิคนี้ 

สภาพแสงแบบใดบ้างที่มีผลต่อการใช้เส้น แพทเทิร์น และสี 

ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวันว่าแสงกระทบโครงสร้างโดยรอบอย่างไร เส้นและแพทเทิร์นใดเกิดขึ้นจากการตกกระทบนั้น สีมักขึ้นอยู่กับสภาพแสงของสถานที่ขณะถ่ายอย่างมาก ต้องย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้พยายามเลี่ยงการถ่ายภาพเวลาแสงจ้าเกินไป ซึ่งจะทำให้พื้นผิวสีสว่างและพื้นผิวสีขาวกลืนหายไปกับแสง หากใส่เสื้อสีอ่อน แสงจ้าจะทำให้สีเพี้ยนและทำให้ดูสว่างเกินไป และจะทำให้รายละเอียดอื่นๆ ในภาพหายไปด้วย 

แสงจ้าคือช่วง 11 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน เงาที่ทอดลงบนพื้นจะสั้นที่สุดและแสงจะส่องจากบนลงล่างจะทำให้ดูไม่น่ามอง 

ผลงานภาพสตรีทของคุณโดดเด่นมากในการใช้เส้นและแพทเทิร์นจากการย้อนแสงและสถาปัตยกรรม มีวิธีตั้งค่ากล้องอย่างไรบ้าง 

ไม่ได้มีการตั้งค่าเจาะจงพิเศษอะไร เพราะสถานการณ์ที่ต่างกันก็ต้องใช้การตั้งค่าและโฟกัสที่ต่างกัน สำหรับการถ่ายภาพแนวสตรีท จะตั้งค่า f-stop ไว้ระหว่าง F1.4 ถึง F5.6 เว้นแต่ว่าตั้งใจจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ยังคงใช้เลนส์ไพรม์ 'ตรีเอกานุภาพ' หรือ FE 24mm F2.8 G (SEL24F28G), FE 40mm F2.5 G (SEL40F25G) และ FE 50mm F2.5 G (SEL50F25G) เป็นส่วนใหญ่ 

เนื่องจากการถ่ายภาพสตรีทถูกถ่ายภายในเสี้ยววินาที ยากที่จะเปลี่ยนการตั้งค่าเป็นระยะๆ ดังนั้นจึงใช้โหมดแมนนวล (M) เท่านั้น ถัดมาก็ดูสภาพแสงแล้วค่อยตั้งค่า ISO รูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ให้สอดคล้องกัน 

เพราะว่าคนหรือวัตถุบนถนนเคลื่อนที่เร็วอยู่เสมอ ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์สูงพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวและเก็บภาพให้คมชัด หลังจากตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์แล้ว รูรับแสงจะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโฟกัสชัดลึกหรือโฟกัสตื้นที่มีโบเก้มากขึ้น สุดท้ายคือตั้งค่า ISO แทบจะตั้งไม่เกิน ISO 400 เลยในช่วงกลางวัน เว้นแต่ว่าความเร็วชัตเตอร์จะเร็วมาก (1/2000 วินาที) หรือรูรับแสงอยู่ที่ F16/F22 ซึ่งไม่จำเป็นเมื่อถ่ายภาพสตรีท พอตั้งค่าเสร็จแล้ว แค่ต้องให้โฟกัสอยู่ถูกจุดและกดชัตเตอร์ให้ทันเท่านั้นเอง 

การถ่ายภาพแนวสตรีทต้องถ่ายให้เร็วภายในเสี้ยววินาที  เพราะเช่นนี้ มีโมเมนต์ที่วางแผนว่าจะถ่ายให้ได้หรือองค์ประกอบอันไหนที่หาเพื่อถ่ายโดยเฉพาะหรือไม่ แล้วได้รูปตามที่ต้องการไหม 

ไม่ได้วางแผนหาโมเมนต์ไหนโดยเฉพาะเลยเพราะถ่ายภาพแนวสตรีททำไม่ได้อยู่แล้ว รูปที่ถ่ายได้ทั้งหมดคือโมเมนต์ที่บังเอิญเกิดขึ้นตอนเราอยู่ ณ สถานที่นั้นเลย เราหาได้เฉพาะแสงและเงาที่สร้างโฟกัสและรูปร่างบางอย่างที่ตรงกันข้ามกับสภาพแวดล้อม หาโมเมนต์บนท้องถนนที่ทำให้แสงดูสวยโดยเดินไปรอบๆ และสำรวจพื้นที่ 

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS | 70mm | 1/400 sec | F7.1 | ISO 400

ทะลายความสมมาตรถนนเมื่อคนเดินผ่าน สองคนในภาพนี้น่าจะกำลังเดินไปหาข้าวเช้ากินกันและน่าจะอยู่บ้านแถวๆ นี้ 

มีเทคนิคถ่ายแสงอะไรที่คิดว่าถ้ารู้มานานแล้วน่าจะดี 

ในการถ่ายภาพแนวสตรีท ตอนที่รู้ว่าการจัดแสงไฟที่ไม่ใช่แสงธรรมชาติ เช่น ไฟถนน เสาไฟ หรือแม้แต่แสงไฟในอาคารสามารถสร้างเรนจ์และความลึกใหม่ให้กับภาพถ่ายได้นี่ถือว่าสุดยอดไปเลย การถ่ายภาพแนวสตรีท พอรู้ว่าการถ่ายย้อนแสงสามารถทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวาและทำให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น และถือเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายภาพสำหรับโปรเจกต์นี้ 

เพราะช็อตถ่ายภาพถนนสวยสมบูรณ์แบบนั้นคาดการณ์ไม่ได้ ดังนั้นความละเอียดของรูปต้องเยี่ยม เออร์โกโนมิคส์ต้องมี ความเร็วต้องมา เลนส์ต้องสุด แบตเตอรี่ต้องอึด ทั้งหมดนี้คือสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพชีวิตบนท้องถนน เป็นคุณสมบัติที่ช่างภาพจำเป็นต้องใช้ในการสร้างสรรค์และเก็บสาระสำคัญของช่วงเวลาที่ไม่สามารถกำหนดได้ในที่สาธารณะไว้ และท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าเราจะมีอุปกรณ์พร้อมมือยังไงก็ตาม ตากล้องที่จะถ่ายภาพแนวสตรีทต้องอดทน หมั่นฝึกฝน สู้งาน และยังต้องอาศัยโชคช่วยด้วยในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายอย่างมีชั้นเชิง 

Article Theme

We would like to request access to your Geolocation to provide you with a customised experience. Please know that you can withdraw your consent at any time via your browser settings.