TaiTai LIVE WILD
 taitai.live.wild

ใน "Mountaineering" ตีพิมพ์ปี 2015 Yang Shi-Tai (Ah Tai) และภรรยา Tai Yi-Ting (Tai Tai) ได้แบ่งปันเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นของการปีนเขา ภายใต้ธีม "relating with the mountains" สองสามีภรรยาขอเชิญทุกคนร่วมเดินทางไปด้วยกันบนเส้นทางอันงดงาม เพื่อเป็นการแนะนำแผนการท่องเที่ยวที่สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่ได้แชร์เรื่องราวประสบการณ์ตลอดการเดินทางและบอกเคล็ดลับที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่ต้องการผจญภัยท่ามกลางภูเขาลำเนาไพร

อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อถ่ายภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุดระหว่างการผจญภัยของคู่นี้ ได้แก่

เราอยากไปเที่ยว Matsu Island มานานแล้ว เราจึงเลือกไปช่วงที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้ดู Blue Tears อันเลื่องชื่อ เมื่อเราก้าวเท้าเข้าสู่เกาะ เราก็เช่ามอเตอร์ไซค์ทันที เพราะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางรอบเกาะและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามซึ่งโอบรับเราอย่างเต็มที่

เนื่องจากเราพกของเวลาเดินทางไม่มาก Tai Tai กับผมจึงเลือกที่จะสะพายเป้แบคแพคแทนที่จะลากกระเป๋าเดินทาง และเอา Alpha 7C สองตัวติดไปด้วย เราต่างถือกล้องคอมแพคไว้เพื่อสำรวจเกาะได้อย่างคล่องตัวและหยุดแวะถ่ายรูปได้ตามต้องการ เรานำเลนส์น้ำหนักเบา FE 40mm F2.5 G และ FE 24mm F2.8 G มาใช้ เพื่อให้สามารถเก็บภาพอย่าง หมู่บ้าน Qinbi หรือบังเกอร์ใต้ดินช่วงสงคราม Beigan ที่มีลักษณะไม่เหมือนที่ใดได้ดียิ่งขึ้น

ทางยาวโฟกัสของเลนส์ 24 มม. กว้างพอสำหรับถ่ายภาพทิวทัศน์ภูมิประเทศ เราประทับใจที่สามารถเก็บภาพภูเขาและ Matsu Sea ได้ในเฟรมเดียว ในขณะเดียวกันทางยาวโฟกัสของเลนส์ 40 มม. ก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์และผู้คน ทำให้สามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาดโดยที่มีผู้คนอยู่ในนั้นได้ง่ายมาก ระยะการบีบอัดภาพเนียนและรูรับแสง F2.5 ที่ดูเหมือนเล็กแต่ก็เพียงพอ ปกติมักจะใช้ 35 มม. F1.8 และปรับรูรับแสงเป็น F2.4 เพื่อไม่ให้เกิดโบเก้มากเกินไปในแบคกราวด์หรือการหลุดโฟกัสบางส่วนในโฟร์กราวด์ ตัวอย่างเช่น สามารถเก็บภาพเกาะต่าง ๆ ในระยะไกลหรือทิวทัศน์ของหมู่บ้าน Beigan Qinbi ที่สภาพลักษณะของสถาปัตยกรรม Min Dong ยังคงไม่บุบสลาย บ้านบนเกาะต่าง ๆ กระจัดกระจายไปตามทางเดินและบันไดที่เหมือนถักทอไว้อย่างแนบเนียน รู้สึกตื่นตาทุกครั้งเวลาเห็นภูมิประเทศที่แตกต่างกันไปทุกมุม

เคยได้ยินคนอื่นเล่าเรื่อง Blue Tears ให้ฟังเยอะมาก แต่ก็คิดมาตลอดว่าน่าจะเหมือนทางช้างเผือกหรือแสงเหนือ ที่ต้องใช้เวลาตั้งกล้องเปิดรับแสงนานก่อนที่จะเห็นของจริง แต่ปรากฎว่าความจริงคือต้องไปในช่วงฤดูกาลที่ใช่ (เมษายนถึงมิถุนายน) และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (สภาพแสงน้อย) เพื่อให้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน สวยมาก! ถ้าใครไม่ได้เก็บภาพความสวยงามของมันไว้เป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวจะต้องเสียดายแน่นอน

หากต้องการถ่ายภาพที่สวยตราตรึง ก็ยังต้องใช้กล้องสเป็คสูงเพื่อจับรายละเอียดสำคัญได้อย่างครบถ้วน การใช้เลนส์ควบคู่กันทั้งเลนส์ 40 มม. และ 24 มม. สามารถเก็บภาพ Blue Tears ได้อย่างสมบูรณ์แบบในขณะที่คลื่นซัดมากระทบกับแนวปะการัง เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์อันตระการตา ไม่ว่าจะใช้ทางยาวโฟกัสและรูรับแสงแบบใด เคล็ดลับหนึ่งก็คือ “น้อยแต่มาก” วัตถุที่ธรรมดาหรือที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว และเราสามารถปล่อยให้รูปเล่าเรื่องของมันเองได้

สี่วันสามคืนผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อกลับถึงบ้านและนึกย้อนคิดถึงการผจญภัยที่เราเพิ่งไปมา ก็แอบรู้สึกแย่ที่คิดว่า Matsu เป็นเพียง "ตัวแทน" มาแทนที่การไปเที่ยวต่างประเทศของเรา ที่จริงของดีในบ้านเรามีมากมาย หมู่บ้านทั้งห้าหมู่บ้าน เกาะทั้งสี่แห่ง ถ้าถึงแม้จะไม่ได้เห็น Blue Tears อันโด่งดังด้วยตาตัวเอง แต่ก็จะสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างของชีวิตบนเกาะได้ง่าย ๆ เพียงแค่นั่งมองทะเลและปล่อยให้ลมพัดผ่าน และชิมอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยในหมู่บ้านเล็ก ๆ

Cityflaneurs
 cityflaneurs

ด้วยความที่เรียนภูมิศาสตร์ตอนมหาวิทยาลัย เลยเชี่ยวชาญในการสังเกตผู้คนและสังคมเป็นพิเศษ แล้วก็เก่งในการเก็บภาพแง่มุมของชีวิตขณะที่เดินเตร่ไปตามตรอกซอกซอย

เราสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนอื่น ๆ ของโลก เพื่อหวังว่าจะใช้กล้องเสนอภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ของมนุษย์ผู้ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับผืนดินที่อาศัยอยู่และเพื่อให้เข้ากับวาทกรรมทางอารมณ์เพื่อประกอบเสริมเรื่องราวของใจกลางเมืองและปรับมุมมองใหม่ให้เมืองที่อยู่เหนือความเร่งรีบและวุ่นวาย

สี่วันที่มาเที่ยว Kinmen ครั้งนี้แทบจะไม่พอ เพื่อนเคยบอกว่าจังหวะการเที่ยวที่สบายที่สุดสำหรับ Kinmen คือหนึ่งวันสำหรับอนุสาวรีย์โบราณ ร้านอาหารหรือของกิน และชายหาด ถ้าเป็นไปได้ คราวหน้าจะมา Kinmen สักหนึ่งเดือนเพื่อให้ได้สัมผัสความงดงามของเกาะนี้ได้อย่างเต็มที่ในสภาพจิตใจที่ผ่อนคลายมากขึ้น เกาะนี้กำลังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ครั้งแรกที่ไป Kinmen สถานที่ที่ทหาร 150,000 นายเคยประจำการเมื่อ 20 ปีที่แล้วสมัยชายทะเลเต็มไปด้วยทุ่นระเบิด เรารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดและความกดดัน 20 ปีต่อมา Kinmen ได้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีบ้านสไตล์ Fujian โบราณและอาคารรูปแบบตะวันตกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ล้อมรอบด้วยชายหาดอันสวยงามที่มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ ไม่มีป้ายเตือน "ระวังทุ่นระเบิด" แล้ว พอเห็นเกาะนี้พัฒนาไปในทางที่ดีเราก็เป็นสุขใจ

เมื่อออกจากสนามบินแล้ว เราเช่ามอเตอร์ไซค์เพื่อสำรวจ Kinmen ได้อย่างอิสระและไปทุกที่ที่เราต้องการ ถนนสายเก่ามีชีวิตชีวาขึ้นเพราะความสวยงามของร้านค้ารูปแบบใหม่ที่ตัดกับบ้านเก่าที่เสริมกันและกันได้อย่างลงตัว ถนนรอบเกาะขยายกว้างขึ้น ตอนนี้สามารถขับรถถึงชายหาดได้จากทุกที่บนเกาะในเวลาไม่ถึง 10 นาที ซึ่งเป็นเหมือนกันหมดทั้งชายฝั่งตะวันตก Jincheng, Jinning และ Lieyu เลนส์ 70-200 มม. ทำให้ง่ายในการเก็บภาพ Xiamen ที่จอแจมาไว้ในองค์ประกอบรูป

ชอบใช้ Alpha 7C เวลาเดินทาง ด้วยตัวกล้องที่มีน้ำหนักเบา ทำให้พกติดตัวไปด้วยได้ทั้งวันและคล่องตัวในการสำรวจถนนโดยไม่เมื่อย เวลาเดินไปเรื่อยและเจอโมเมนต์ที่ใช่ ก็หยิบกล้องขึ้นมาได้โดยไม่ยุ่งยาก และกล้องก็พร้อมโฟกัสทิวทัศน์หรือวัตถุที่ต้องการถ่ายอย่างแม่นยำเสมอ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล 5 แกนพร้อมเซนเซอร์ฟูลเฟรมที่นิ่งและไม่สั่นทำให้ไม่ต้องห่วงเมื่อต้องถ่ายในสภาพแสงน้อยยามเย็น

Kinmen มีสถานที่สวยงามหลายแห่งที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นถนนยุค Min โบราณ อาคารสไตล์ตะวันตก ทะเลโดยรอบ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะใช้ทางยาวโฟกัสของเลนส์ 70-200 มม. เพื่อดึงระยะการบีบอัด ทำให้เป็นเลนส์ในอุดมคติสำหรับการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ท่ามกลางทิวทัศน์อันกว้างไกลเช่นนี้ รูปนี้ใช้เลนส์มุมกว้าง 24 มม. F2.8 เป็นครั้งแรก แล้วก็รู้เลยว่าเลนส์ทางยาวโฟกัสคงที่น้ำหนักเบาของ Alpha 7C ใช้ง่ายเหมาะมือมากกับการเก็บภาพความยิ่งใหญ่ของอาคารเก่าแก่ตามท้องถนนหรือภาพพอร์ตเทรตของชายหาดและตรอกซอกซอย

พ่อเคยเล่าว่า สมัยก่อนตอนกองกำลังทหารทางทะเลและทางบกมาประจำการที่ Kinmen มีคนจากฝั่งหนึ่งของช่องแคบไต้หวันว่ายไปอีกฝั่ง และคนจากอีกฝั่งก็ว่ายสวนทางกันในความมืดเพื่อส่งข่าวให้กองกำลังขแงแต่ละฝ่าย ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นตำนานเล่าต่อกันมาหรือข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ตอนเดินผ่านด่านค่ายทหารที่ชายทะเลแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่จ้องมอง Xiamen ที่สว่างไสว ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแล้ว แต่ก็กระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในตัวเราได้โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อความทรงจำของ Kinmen ร้อยเข้าด้วยกันกับเปลวเพลิงแห่งสงครามอย่างแยกกันไม่ได้

Zoebitalk
 Zoebitalk
 Zoebitalk

Zoe และ Xiang คิดทำ Zoebitalk    

ขึ้นมาเพื่อบันทึกการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของคู่รักที่เดินทางรอบโลกด้วยมอเตอร์ไซค์

เราอยากจะแชร์สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เรารู้สึก และสิ่งที่เราได้ยินเกี่ยวกับความสวยงามของภูเขาและทะเลทั่วโลก เราอยากแชร์อารมณ์และความตื่นเต้นในแต่ละโมเมนต์ เพราะหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ออกไปผจญภัยด้วยตัวเอง ในระหว่างการเดินทาง เราได้บันทึกการผจญภัยและคำแนะนำการเดินทางในแต่ละวัน นอกจากวิดีโอแล้ว เรายังแอบซ่อน “ไข่อีสเตอร์” ไว้ในเคล็ดลับการเดินทางและข้อความในบล็อกของเราที่ท้ายวิดีโอที่เราหวังว่าคนดูของเราหาเจอ เราอยากให้คนที่ติดตามการเดินทางของเราหาความกล้าที่จะจัดกระเป๋าและออกเดินทางไปเที่ยวด้วยตัวเอง

เราหวังว่าสักวันหนึ่ง คุณจะรู้สึกว่าตัวเองพร้อมผ่านการดูเรื่องราวของเรา! ทำได้อยู่แล้ว! บิ้วท์ให้กำลังใจตัวเองหน่อยสิ!

เรามีวันหยุดฤดูร้อนแสนโรแมนติกหนึ่งสัปดาห์เดินทางไปยังเกาะรอบนอก การผจญภัยที่น่ารักของเราคือใช้เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามเส้นทางชายทะเลที่เขียวขจีและตัดผ่านเมืองจีนโบราณและป้อมปราการทหาร และเมื่อลมทะเลพัดโชยเบา ๆ และดวงอาทิตย์ส่องแสงรำไร เรารู้สึกอิสระเหมือนนกนางนวล!

เดทแรกของเราใน Kinmen พร้อมเดินทางไปชมอนุสรณ์สถานโบราณกันแล้วหรือยัง

ไม่อยากจะเชื่อเลย! หลังจากไปเที่ยวด้วยกันห้าวันสี่คืน เราไม่เคยคิดว่าเราจะเจอกับธรรมชาติที่ไม่เหมือนที่ไหนขนาดนี้ หาดทรายละเอียดอีกฝั่งนั้นดีกว่า Long Beach Island เสียอีก มีภูเขาใน Kinmen ที่เรียกว่า "Taiwan's Little Peaks" เคยได้ยินมั้ย ยิ่งเดินไปตามถนนที่มีโขดหินขนาดใหญ่และยิ่งเดินผ่านต้นไม้ไกลขึ้นเท่าไร เราก็ได้รับการต้อนรับด้วยวิวหมู่บ้านยุโรปอันเงียบสงบในหุบเขา

Alpha 7C เป็นกล้องฟูลเฟรมที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดเท่าที่เคยใช้มาเลย และเป็นกล้องที่ดีที่สุดในการบันทึกการเดินทางของเราที่ Kinmen ด้วยตัวกล้องที่กะทัดรัด คุณภาพของภาพสูง ระบบป้องกันภาพสั่นแบบ 5 แกนที่แม่นยำ โฟกัสอัตโนมัติในการตรวจจับดวงตา หน้าจอพับได้ที่ให้การควบคุมมุมกล้องที่ต้องการสำหรับการถ่ายภาพได้อย่างเป๊ะปัง ขั้นตอนการแต่งภาพนั้นใช้ลูกเล่นได้เยอะแยะ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้การเก็บภาพการผจญภัยและช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเดินทางที่ท้าทายนั้นชิลมาก เวลาถ่ายรูปจะดีมากถ้าเดินเพิ่มอีกนิดก้าวอีกหน่อย ระหว่างที่ก้าวแต่ละก้าวเราจะค้นพบความงามรอบตัวเรา Alpha 7C นั้นเพอร์เฟ็คมากสำหรับคนชอบถ่ายภาพกลางแจ้งและหลงใหลการเดินทางอย่างเรา

สำหรับ Vlog การเดินทาง 5 วัน 4 คืนนี้ ขอแนะนำเลนส์ FE 20 มม. F1.8 คุณสมบัติของเลนส์น้ำหนักเบากับมุมไวด์พิเศษ รูรับแสงกว้าง และกล้องฟูลเฟรม เมื่อรวมตัวกันแล้วทำให้เราทึ่งทุกครั้ง ภาพที่ถ่ายได้นั้นละเอียดมากไม่ว่าจะในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน

สุดปัง!

ความเป็นกันเองของคนในชุมชนท้องถิ่น Kinmen เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าประทับใจ เราคิดว่าเราบังเอิญเจอคนที่เราเคยเจอมาก่อนหน้านี้ตอนเขายิ้มทักเรา แต่กลับกลายเป็นว่าจริง ๆ แล้วเป็นมารยาทของคนที่นี่เวลาขี่มอไซด์ Kinmen เป็นเกาะที่อบอุ่นด้วยการผสมผสานที่ลงตัวของบ้านและหมู่บ้านจีนโบราณกับอาคารสไตล์ตะวันตกที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และที่สุดคือคนในท้องที่ที่เป็นมิตรและอบอุ่นเหมือนญาติพี่น้อง

นี่คือเรื่องราวความรักของ Xiang และ Zoe คู่รักที่หลงใหลในการขี่จักรยานและการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น เราใช้กล้องเก็บบันทึกเรื่องราวความรักของเราทุกช็อตกับทุกเมืองที่เราเดินทางไป